เคล็ดลับช่วยจัดการความเครียดและการดูแลผู้สูงอายุ

สังคมวัยเกษียณมีอัตราการเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในสังคมไทย เพราะวิวัฒนาการทางการแพทย์และเทคโนโลยี รวมไปถึงความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น สิ่งสำคัญสำหรับการ ดูแลผู้สูงอายุ ที่ไม่น้อยไปกว่าสุขภาพทางกายภาพ นั้นก็หลีกเลี่ยงเรื่องอารมณ์ ความเครียด และความรู้สึกของผู้สูงอายุ เพราะเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงทำให้มีสุขภาพดีทั้งกายและใจ ( ดูแผู้สูงอายุ )

การดูแลผู้สูงอายุ เป็นวัยที่มีความท้าทายในการดูแลเป็นอย่างมาก โดยเรามักจะคุ้นเคยกับคำว่า การดูแลผู้สูงอายุนั้นเหมือนกับการดูแลเด็ก หลาย ๆ ครอบครัวอาจจะต้องรับมือกับความดื้อที่เกิดจากความคุ้นเคยบางอย่างที่ผู้สูงอายุทำจนเคยชิน ความเครียดที่เกิดจากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นอาการเจ็บป่วย การเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิต จากเดิมที่เคยทำงานเป็นประจำก็มีการลดลง หรือปัจจัยด้านอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อจิตใจและความรู้สึก ทำให้ผู้สูงอายุมีภาวะเครียด หรือ รู้สึกไม่ดีทางด้านอารมณ์ ดังนั้น เราควรเตรียมพร้อมทำความเข้าใจการจัดการความเครียดในวัยสูงอายุ เพื่อปรับใช้กับคนในครอบครัว หรือตัวเราเองเมื่อก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุด้วยเช่นกัน

Kiidu ได้รวบรวมเคล็ดลับการช่วยจัดการความเครียดง่าย ๆ ที่สามารถทำได้เองที่บ้าน และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อลดความเครียด เพิ่มความสุขให้กับผู้สูงอายุในครอบครัว

กิจกรรมส่งเสริมความสุขให้กับผู้สูงอายุ

การออกกำลังกายเบาๆ ภายใน หรือภายนอกบริเวณบ้าน

เช่นการเดินช้าภายนอก หรือ ขยับร่างกายภายในบ้านอย่างสม่ำเสมอ จะส่งผลทำให้ได้เปลี่ยนท่าทาง เคลื่อนไหวร่างกายเพื่อลดอาการเจ็บป่วยต่างๆ ที่อาจเกิดจากอาการกดทับเมื่อนั่งหรือนอนเป็นเวลานาน ในข้อนี้จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง หรือหากเดินไปด้านนอกก็จะได้เห็นภาพภายนอก ไม่รู้สึกเบื่อ เมื่ออยู่ในบ้านเป็นเวลานานๆ และไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังแบบไหนก็จำเป็นต้องมีคนดูแล อยู่ใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัย

2. การพูดคุย และรับฟัง

ผู้สูงอายุมักจะมีเรื่องเล่าที่น่าสนใจอยู่เสมอ เพราะผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มามากมาย ในบางครั้งอาจมีเรื่องตลก คติสอนใจ เล่าให้กับลูกหลานได้ฟัง ดังนั้น การพูดคุย ให้ผู้สูงอายุได้เล่าเรื่อง หรือระบาย รวมถึงได้สอนเราบ้างก็จะทำให้เขารู้สึกคลายเหงา คิดถึงวันเก่าๆ ส่งผลให้รู้สึกดีขึ้นเมื่อมีคนรับฟัง หรือในบางครั้งเราอาจจะเล่าเรื่องกลับให้กับผู้สูงอายุได้ฟังเพื่อให้เขาได้รับข่าวสารใหม่ๆ

3. พาทำกิจกรรมที่ผู้สูงอายุชอบทำ

ผู้สูงอายุหลายๆ คน เมื่อเขาวันรุ่นหรือในวัยผู้ใหญ่มักมีสิ่งที่ชอบทำ งานอดิเรกชอบ ของสะสม หากไม่เป็นกิจกรรมที่อันตรายต่อร่างกาย คนใกล้ชิดที่ดูแลผู้สูงอายุก็สามารถพาทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้เพื่อให้เกิดความสุขมากยิ่งขึ้นเมื่อได้ทำให้สิ่งที่ชอบ

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการ ดูแลผู้สูงอายุ

ห้องนอน และพื้นที่บริเวณบ้าน

การทำบ้าน หรือ ห้องนอน ให้สอาดอยู่สม่ำเสมอ จะส่งผลให้เกิดสุขลักษณอนามัยที่ดี และสุขภาพจิตก็จะดีตามไปด้วย เพราะความสะอาดจะไม่ทำให้ขัดหูขัดตา เกิดความสบาย ไม่ทำให้เกิดอาการอย่างอื่น ที่สามารถส่งผลต่อความเครียดได้ง่าย

2. สภาพอากาศที่เหมาะสม

อากาศมีผลต่อความรู้สึกของผู้สูงอายุ หากร้อนไปหรือเย็นเกินไปก็จะส่งผลต่อความสบายตัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีอาการเจ็บป่วย เมื่อร้อนเกินไปก็อาจทำให้ยิ่งไม่สบาย และหากเย็นเกินไปก็อาจทำให้เกิดอาการเย็นจนเจ็บปวดกล้ามเนื้อ ทำให้ส่งผลต่อความเครียดได้ง่าย

3. การเพิ่มพื้นที่สีเขียว หรือการปลูกต้นไม่

แม้สังคมเมืองจะมีพื้นที่น้อย หรือบางบ้านก็มีพื้นที่เพียงพอ แต่การเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในหรือบริเวณบ้าน จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกผ่อนคลาย ในปัจจุบันมีต้นไม้เล็ก ๆ ที่เหมาะกับคอนโด เช่น กระบองเพชร หรือ บอนไซ แต่หากมีบริเวณที่รอบบ้านปลูกต้นไม้ที่ใหญ่ขึ้น จะยิ่งดีถ้าเป็นต้นไม้ที่ผู้สูงอายุชอบ

4. สภาพแวดล้อมและคนรอบข้าง

ผู้สูงอายุจะมีอารมณ์ที่ดีขึ้น เมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่รัก และรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้คนที่ไว้ใจ ดังนั้น การดูแลผู้สูงอายุในแง่ของการช่วยจัดการความเครียด เราจึงควรมีเวลาให้กับเขา หรือมาหาอยู่เป็นประจำ การที่ลูกมาหรือมีหลาน ๆ มาหาก็จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดอาการเครียดลงได้ หรือถ้าครอบครัวไหนมีผู้ดูแลผู้สูงอายุ ก็ควรเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีมาตรฐานความสะอาดเรียบร้อย และคอยเป็นเพื่อนของผู้สูงอายุได้

สุดท้ายนี้ อยากให้เพื่อน ๆ ลองนำเคล็ดลับง่าย ๆ ทำได้เองที่บ้าน ช่วยให้ผู้สูอายุสบายใจได้มากขึ้น ทำให้เป็นเรื่องพื้นฐานที่หลาย ๆ คนอาจมองข้าม เพื่อให้เราได้ใช้เวลาแห่งความสุขกับคนในครอบครัว และทำให้การดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องท้าทายที่ดีต่อใจ